Posted in Article, แปลไทย, Inter, Video sub Thai

Mr. Porcelain – Jude York | แปลไทย

สวัสดีค่ะ มือดำเอง


วันนี้มาพร้อมกับเพลงเพราะ ๆ ของ Jude York ซึ่งเป็นเพลงที่พูดชื่นชมถึงชายหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ที่ เด็กหนุ่มคนหนึ่งเฝ้ามองด้วยความหลงใหล แต่ในขณะเดียวกันก็อิจฉาอยู่ในความสมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายอยู่ลึก ๆ ค่ะ

คุณ Jude เจ้าของเพลงนี้เป็นชาว Queer เพลงก็เลยการมองชายหนุ่มผ่านสายตาของชายหนุ่มอีกคนค่ะ เป็นความรักของชาว LGBTQAI+ แบบไม่ต้องตีความเพิ่ม มือดำเลยชอบมาก ๆ กับการไม่ต้องหลบซ่อนเป็นสัญลักษณ์อะไร เพราะคุณ Jude เองก็เปิดเผยมาก ๆ และพูดอยู่หลายต่อหลายครั้งว่า Mr. Porcelain เป็นเพลงที่ชายหนุ่มคนหนึ่งหลงใหลในตัวชายหนุ่มอีกคน

มือดำชอบเพลงนี้ตั้งแต่ได้ฟังครั้งแรกเลย ดนตรีก็เพราะ เสียงคุณ Jude ก็แสนจะชวนฝัน เนื้อเพลงก็ถูกเขียนขึ้นมาอย่างดี แม้ว่าฟังแล้วจะแอบรู้สึกเศร้าอยู่นิด ๆ เพราะชวนให้มือดำนึกถึงความรักที่เหล่าแฟนบอย/แฟนเกิร์ลมีให้ตัวละครในจินตนาการหรือ Fictional character เหมือนกันนะ เพราะมันเป็นการหลงรักที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางสมหวัง 555555

แอบกระซิบว่าเวอร์ชัน Acoustic ก็เพราะมาก ๆ และคลิปสั้น ๆ ที่คุณ Jude ร้องกับคุณแม่และพี่ชายก็เพราะมากเช่นกันค่ะ เป็นครอบครัวศิลปินอย่างแท้จริง 55555

Not self-deprecating
I hold my head high
Most of the time like the candle I-
Lightest of breezes
He changes the seasons
Is it gettin’ hot in here?

ไม่ใช่คนถ่อมตัวอะไร
ออกจะมั่นใจตลอดเวลาเสียด้วยซ้ำ
ราวกับเทียนไขฉัน-
ราวกับสายลมแผ่วเบา
เขาพัดผ่านเข้ามาแปรเปลี่ยนฤดูกาล…
ในนี้มันร้อนขึ้นหรือเปล่านะ?

Oh, he’s so attractive, could never be him
I think he might break if my hand touched his skin
I’ve never been so close to such pretty things
And it hurts, to be only of earth

เขาช่างงามต้องตา ในแบบที่ฉันไม่มีทางเป็น
ราวกับว่าเขาจะแตกร้าวด้วยสัมผัสเพียงปลายนิ้ว
ไม่เคยเลย ไม่เคยจะได้ใกล้ชิดกับความงดงามเช่นนี้
และมันก็น่าเจ็บปวดเหลือเกิน ที่นี่เป็นเพียงมนุษย์เดินดิน

Mr. Porcelain doll
Mr. Instagram scroll
Mr., flatter me enough just to keep me on my toes
Does it ever get lonely up there on the wall?
To be looked at, but never to hold
Mr. Porcelain doll

คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
พ่อหนุ่มที่ไถเจอได้เพียงบนไอจี
คุณที่เยินยอฉันเพียงเพื่อจะให้ฉันว้าวุ่นใจเล่น
อยู่ตัวคนเดียวบนชั้นติดผนังแบบนั้นคุณเคยเหงาบ้างไหม?
ที่มีไว้เพียงเพื่อตั้งโชว์ ไม่ใช่เพื่อโอบกอด
คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

I could never
I could never
I could never

He wasn’t made to hold

I could never
I could never
I could never

ฉันไม่กล้าพอหรอก
ฉันคงไม่อาจเอื้อม
ไม่อาจเอื้อมหรอก
ก็เขาไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ครอบครอง
ฉันไม่บังอาจไปแตะต้องหรอก
ฉันไม่กล้าพอขนาดนั้นหรอก
ไม่อาจเอื้อมถึงเพียงนั้น

He can’t be mine to hold….on for a minute
Did he mean to say that?
Mistook me for an ex that he meant to text back
My heart’s beating out my chest
I think he said

เขาไม่ได้ได้เกิดมาเพื่อให้ฉัน….เดี๋ยวก่อนนะ…
นี่เขาหมายความตามนั้นจริงหรือ?
ไม่ใช่ว่าเขานึกว่าฉันเป็นแฟนเก่าที่เขาตั้งใจจะแชทตอบหรอกนะ
ใจฉันเต้นรัวเสียจนแทบจะหลุดออกมา
ฉันว่าเขาบอกว่า

“You’re so attractive, where do I begin?
I think you might break if my hand touched your skin
I’ve never been so close to such pretty things
And it hurts that you’re so down to earth

“คุณน่ารักจัง จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?
คุณดูบอบบางเหมือนจะแตกสลายไปด้วยสัมผัสเพียงปลายนิ้ว
ผมไม่เคยเจอใครที่งดงามเท่านี้มาก่อน
แถมคุณยังถ่อมตัวเสียจนผมใจเจ็บ

Mr. Porcelain doll
Mr. 20 years old
Mr., flatter me enough as if I didn’t know
Does it ever get lonely, a rose on the wall?
To be looked at but never to hold
Mr. Porcelain doll”

คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
พ่อหนุ่มอายุ 20
ที่เอาแต่เยินยอผม ทำอย่างกับผมไม่รู้ตัวอย่างนั้นแหละ
เคยรู้สึกเหงาบ้างไหม? ที่เป็นกุหลาบงามประดับโดดเดี่ยวบนกำแพง
ที่มีไว้เพียงเพื่อชื่นชม แต่ไม่อาจถูกถือครอง
คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ”

I could never
I could never
I could never

He wasn’t made to hold

I could never
I could never
I could never

He can’t be mine to hold

ฉันไม่กล้าพอหรอก
ฉันคงไม่อาจเอื้อม
ไม่อาจเอื้อมหรอก
ก็เขาไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ครอบครอง
ฉันไม่บังอาจไปแตะต้องหรอก
ฉันไม่กล้าพอขนาดนั้นหรอก
ไม่อาจเอื้อมถึงเพียงนั้น
เขาไม่ได้ได้เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน

Mr. porcelain doll,
Mr. raise and then fold
Mr. “you take the lead”, but then charge for the show
He’s so beautifully perfect on everyone’s phone
To be looked at knowing he’ll never call
Mr. Porcelain doll

คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
พ่อหนุ่มที่ชอบเอาชนะแล้วจู่ ๆ ก็ยอมลงให้กันง่าย ๆ
คุณคนที่บอกว่า “คุณนำเลย” แต่สุดท้ายพลิกมาเป็นฝ่ายคุมเกมทุกที
เขาช่างเหมาะจะเป็นภาพพื้นหลังสวย ๆ บนหน้าจอใครต่อใคร
ที่มีไว้เพียงเพื่อเฝ้ามอง ทั้งที่รู้แก่ใจว่าเขาจะไม่มีวันโทรมา
คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

I could never
I could never
I could never

He wasn’t made to hold

I could never
I could never
I could never
Mr. Porcelain doll

ฉันไม่กล้าพอหรอก
ฉันคงไม่อาจเอื้อม
ไม่อาจเอื้อมหรอก
ก็เขาไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ครอบครอง
ฉันไม่บังอาจไปแตะต้องหรอก
ฉันไม่กล้าพอขนาดนั้นหรอก
ไม่อาจเอื้อมถึงเพียงนั้น
คุณตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

I could never
I could never
I could never

He wasn’t made to hold

I could never
I could never
I could never

Mr. Porcelain

ฉันไม่กล้าพอหรอก
ฉันคงไม่อาจเอื้อม
ไม่อาจเอื้อมหรอก
ก็เขาไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ครอบครอง
ฉันไม่บังอาจไปแตะต้องหรอก
ฉันไม่กล้าพอขนาดนั้นหรอก
ไม่อาจเอื้อมถึงเพียงนั้น

คุณกระเบื้องเคลือบ…

ล่าสุดประเทศของเราก็เพิ่งจะได้ลุ้นกับกฎหมายสมรสเท่าเทียมไป ก็พอดีกับที่มือดำกำลังอินกับเพลงนี้มาก ๆ และหยิบมาแปลพอดีเลยค่ะ

ขอให้ความรักเป็นสิ่งครอบครองและโอบกอดได้ของทุกคนนะคะ

แล้วเจอกันค่ะ,
มือดำ

Posted in Article, แปลไทย, Inter

Bless The Broken Road – Rascal Flatts |แปลไทย

สวัสดีค่ะ #มือดำ เอง

เพลง Bless The Broken Road นั้นจริงๆ แล้วเป็นเพลงเก่าสมัยปี 1994 นู่นเลยล่ะค่ะ แต่งโดยสมาชิกวง Nitty Gritty Dirt Band คุณ Jeff Hanna ร่วมกับนักแต่งเพลงอีก 2 คนคือคุณ Bobby Boyd และ Marcus Hummon

ตัวเพลงถูกนำมาร้องใหม่อยู่เรื่อยๆ และเวอร์ชั่นที่คนคุ้นเคยอยากที่สุดก็คงเป็นเวอร์ชั่นของ Rascal Flatts ที่ออกมาในปี 2004 รวมอยู่ในอัลบั้ม Feels Like Today

แต่รู้ไหมคะว่าเพลงนี้มันเคยถูก 3 หนุ่มทรีโอเก็บเข้ากรุไปนานถึง 2 ปี เพราะเมื่อปี 2002 พวกเขาอัดเดโมเพลงนี้เอาไว้ แต่ก็รู้สึกว่าอัลบั้ม Melt ที่ออกในปีนั้นมีเพลงบัลลาดเยอะพอแล้ว พวกเขาเลยตัด Bless The Broken Road ออกจากลิสต์เพลงไป และทุกคนก็ลืมมันไปสนิทเลยจนกระทั่งในปี 2004 ระหว่างที่คุณ Jay DeMarcus ทำความสะอาดรถของตนเองเขาก็เจอเข้ากับเดโมที่ลืมเลือนไป ตอนนั้นเองเขาถึงปรึกษาเพื่อนร่วมวงให้นำเอาเพลงนี้มาอัดกันอีกครั้ง

Official Audio

Live Version

แปลไทยของพวกเรา

Bless The Broken Road – Rascal Flatts

แปลไทยโดย ดิฉันเอง

I set out on a narrow way many years ago
Hoping I would find true love along the broken road
But I got lost a time or two
Wiped my brow and kept pushing through
I couldn’t see how every sign pointed straight to you

เนิ่นนานมาแล้วที่ฉันออกเดินไปบนเส้นทางแสนทุกข์ตรม
ด้วยความหวังว่าจะได้พบกับรักแท้ระหว่างถนนหนทางที่ผุพัง
แต่ก็มีบ้างที่เดินหลงทิศผิดทางไป
ปาดเช็ดเม็ดเหงื่อที่หัวคิ้วและมุ่งหน้าพาตัวเองเดินต่อ
ไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่าทุกสิ่งล้วนบอกใบ้ไปหา “เธอ”

That every long lost dream led me to where you are
Others who broke my heart, they were like Northern stars
Pointing me on my way into your loving arms
This much I know is true
That God blessed the broken road
That led me straight to you

ว่าทุกฝันที่แหลกสลายนำพาฉันไปยังที่ที่เธออยู่
ใครต่อใครที่เคยเหยียบย่ำทำร้ายใจเป็นราวแสงดาวนำทาง
ชี้นำฉันให้โผสู่อ้อมกอดเปี่ยมรักของเธอ
เพียงเรื่องนี้ที่ฉันรู้ว่าเป็นความจริงแท้
รู้ว่าพระเจ้าประทานหนทางยากเข็ญมาให้
เพื่อให้ฉันได้มาพบกับเธอในที่สุด

Yes, He did
ใช่ พระองค์ตั้งใจไว้แล้ว

I think about the years I spent just passin’ through
I’d like to have the time I lost and give it back to you
But you just smile and take my hand
You’ve been there, you understand
It’s all part of a grander plan that is coming true

คิดย้อนไปถึงเดือนปีที่ผ่านไปอย่างเปล่าไร้
อยากจะกอบเก็บวันเวลาเหล่านั้นนำมาคืนให้กับเธอ
แต่เธอเพียงระบายยิ้มและกุมมือฉันไว้
ว่าเธอเองก็เคยผ่านมันมาและเธอเข้าใจฉันดี
ทุกสิ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการพบเจอความสุขแสนยิ่งใหญ่ที่ได้กลายเป็นจริงในวันนี้

Every long lost dream led me to where you are
Others who broke my heart, they were like Northern stars
Pointing me on my way into your loving arms
This much I know is true
That God blessed the broken road
That led me straight to you

ทุกฝันที่แหลกสลายนำพาฉันไปยังที่ที่เธออยู่
ใครต่อใครที่เคยเหยียบย่ำทำร้ายใจเป็นราวแสงดาวนำทาง
ชี้นำฉันสู่อ้อมกอดเปี่ยมรักของเธอ
เพียงเรื่องนี้ที่ฉันรู้ว่าเป็นความจริงแท้
รู้ว่าพระเจ้าประทานหนทางยากเข็ญมาให้
เพื่อให้ฉันได้มาพบกับเธอในที่สุด

And now I’m just a-rollin’ home
Into my lover’s arms
This much I know is true
That God blessed the broken road
That led me straight to you

และ ณ เวลานี้ฉันก็ได้หวนคืนสู่บ้านที่แท้จริงแล้ว
บ้านในอ้อมแขนอุ่นของคนรัก
เท่านี้แหละที่ฉันรู้ดีว่าเป็นเรื่องจริงแท้
ว่าพระเจ้าประทานหนทางยากเข็ญมาให้
เพื่อให้ฉันได้มาพบกับเธอในที่สุด

That God blessed the broken road
That led me straight to you

ว่าพระองค์ประทานถนนผุพังมาให้ฟันฝ่า
เพื่อนำพาให้ฉันได้มารักเธอ

แล้วเจอกันค่ะ,

มือดำ

Posted in Article, แปลไทย, Inter

All of Me – Matt Hammitt | แปลไทย

สวัสดีค่ะ มือดำอีกแล้ว

เพลง All of Me ฟังเผิ่นๆ อาจจะเหมือนเป็นเพลงคลั่งรักธรรมดาๆ เพลงหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วเพลงนี้มีเรื่องราวอยู่ค่ะ

คุณ Matt Hammitt เจ้าของบทเพลงนี้แต่งเพลงนี้รวมทั้งเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม Every falling tear ให้กับ Bowen ลูกคนที่ 3 ของเขากับภรรยา เนื่องจากเมื่อปี 2010 หมอได้วินิจฉัยเอาไว้ว่าน้อง Bowen อาจจะเกิดมาพร้อมกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดที่เรียกว่า Hypoplastic left heart syndrome (HLHS) และมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเสียชีวิตได้

เมื่อเดือนกันยายนปี 2011 เป็นวันเกิดครบรอบ 1 ขวบของ Bowen และเป็นปีที่เพลงถูกปล่อยออกมา ท่อนที่ว่า Heaven brought us to this moment. It’s too wonderful to speak. มือดำคิดว่าน่าจะหมายถึงความรู้สึกยินดีที่ลูกชายของเขายังมีชีวิตอยู่กับครอบครัวจนอายุครบ 1 ขวบนั่นเอง

และทุกวันทั้งครอบครัวก็ยังคงสู้ต่อไปเพื่อให้น้อง Bowen ได้รับทุกอย่างที่เขาควรได้รับและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แม้ว่าจะยังต้องไปผ่าตัดหัวใจอยู่บ้าง (ปีนี้น้องเองก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดรอบที่ 3 เหมือนกัน) เรื่องราวของน้อง Bowen มีเป็นสารคดีฉายทางโทรทัศน์ในชื่อ Bowen’s Heart ด้วยค่ะ

ซึ่งอารมณ์ ความรู้สึกของคุณ Matt ผู้เป็นพ่อถูกถ่ายทอดผ่านเนื้อเพลงออกมาได้เป็นอย่างดี มือดำเองจากที่คิดว่าเพลงเพราะเฉยๆ พอได้รู้เบื้องหลังเพลงความรู้สึกที่มีต่อเพลงนี้ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล บางครั้งฟังแล้วแอบน้ำตาไหลเลยล่ะค่ะ

Official Audio

คลิปแปลไทยของพวกเรา

All of Me – Matt Hammitt
แปลไทยโดย มือดำเอง

Afraid to love
Something that could break
Could I move on
If you were torn away
And I’m so close to what I can’t control
I can’t give you half my heart and pray he makes you whole

กลัวเหลือเกินที่จะรัก
สิ่งที่มันแตกสลายได้ง่ายดาย
ฉันคงอยู่ต่อไม่ไหว
หากเธอถูกพรากไปจากฉัน
และสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันก็อยู่เหนือการควบคุมใดแล้ว
ฉันไม่อาจมอบหัวใจเพียงครึ่งดวงให้เธอแล้วหวังให้พระองค์เติมเต็มส่วนที่เหลือได้

You’re gonna have all of me
You’re gonna have all of me
‘Cause you’re worth every falling tear
You’re worth facing any fear

ฉันจะให้เธอทั้งหมดที่มี
จะทุ่มให้เธอหมดทั้งกายและใจ
เพราะเธอมีค่าพอให้หลั่งน้ำตา
คุ้มค่าพอที่จะยืนหยัดต่อความหวั่นเกรง

You’re gonna know all my love
Even if it’s not enough
Enough to mend our broken hearts
But giving you all of me
Is where I’ll start

จะให้เธอได้รับรู้ถึงความรักทั้งใจของฉัน
แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มากพอ
พอที่จะรักษาหัวใจที่แตกสลายของเราได้
แต่สิ่งแรกที่ฉันจะทำ คือให้เธอทั้งหมดที่มี

I won’t let sadness steal you from my arms
I won’t let pain keep you from my heart
I’ll trade the fear of all that I could lose
For every moment I share with you

จะไม่ยอมให้ความเศร้าโศกพาเธอห่างจากอ้อมแขน
จะไม่ยอมให้ความปวดร้าวพรากเธอไปจากใจได้
จะเอาความหวาดกลัวที่จะต้องสูญเสียทุกสิ่ง
แลกกับช่วงเวลาที่จะได้ใช้ร่วมกันกับเธอ

You’re gonna have all of me
You’re gonna have all of me
‘Cause you’re worth every falling tear
You’re worth facing any fear

ฉันจะให้เธอทั้งหมดที่มี
จะยกให้เธอหมดทั้งกายและใจ
เพราะเธอมีค่าเหลือเกิน พอให้ฉันเสียน้ำตาจนหมดร่าง
มีค่าพอให้เผชิญกับภยันตรายทั้งปวง

You’re gonna know all my love
Even if it’s not enough
Enough to mend our broken hearts
But giving you all of me
Is where I’ll start

จะให้เธอได้รับรู้ถึงความรักทั้งใจนี้
แม้ว่ามันอาจจะยังไม่มากพอ
พอที่จะรักษาหัวใจที่แตกสลายของเราได้
แต่สิ่งแรกที่ฉันจะทำ คือทุ่มให้เธอทั้งหมดที่ฉันมี

Heaven brought us to this moment
It’s too wonderful to speak
You’re worth all of me
You’re worth all of me

สวรรค์นำพาเรามายังนาทีนี้
มันงดงามมากเสียจนไม่อาจเอ่ยคำใด
เธอมีค่าต่อฉันมากเหลือเกิน
เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน

So let me recklessly love you
Even if I bleed
You’re worth all of me
You’re worth all of me

ฉะนั้นจงปล่อยให้ฉันคลั่งรักเธอต่อไปเถอะนะ
ต่อให้จะต้องเสียเลือดเนื้อเท่าไรก็ตาม
เพราะเธอมีค่ามากเหลือเกิน
มีค่าจนฉันทุ่มเทให้ได้ทั้งหมด

You’re gonna have all of me
You’re gonna have all of me
‘Cause you’re worth every falling tear
You’re worth facing any fear

ฉันจะให้เธอทั้งหมดที่มี
จะยกให้เธอหมดทั้งกายและใจ
เพราะเพื่อเธอแล้วจะต้องเสียกี่หยดน้ำตาก็คุ้มค่า
เพื่อเธอแล้วฉันพร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง

You’re gonna know all my love
Even if it’s not enough
Enough to mend our broken hearts
But giving you all of me
Is where I’ll start

จะให้เธอได้รับรู้ถึงความรักทั้งใจของฉัน
แม้ว่ามันอาจจะยังไม่มากพอ
พอที่จะรักษาหัวใจที่แตกสลายของเราได้
แต่สิ่งแรกที่ฉันจะทำ คือมอบให้เธอทั้งหมดที่มี


You’re gonna have all of me
‘Cause you’re worth every falling tear
You’re worth facing any fear

ฉันจะให้เธอทั้งหมดที่มี
เพราะเพื่อเธอแล้วจะต้องเสียกี่หยดน้ำตาก็คุ้มค่า
เพื่อเธอแล้วสักกี่ความกลัวก็พร้อมเผชิญ

You’re gonna know all my love
Even if it’s not enough
Enough to mend our broken hearts
But giving you all of me
Is where I’ll start

จะให้เธอได้รับรู้ถึงความรักทั้งใจนี้
แม้ว่ามันอาจจะยังไม่มากพอ
พอที่จะรักษาหัวใจที่แตกสลายของเราได้
แต่สิ่งแรกที่ฉันจะทำ คือมอบให้เธอทั้งหมดที่ฉันมี

It’s where I’ll start
เป็นสิ่งแรกที่ฉันจะทำให้

ขอให้พวกคุณมีความสุขพร้อมหัวใจที่เต็มดวงค่ะ,
มือดำ

Posted in Article, แปลไทย, Inter, Video sub Thai

At The Beginning – Christy Altomare & Zach Adkins (Anastasia The Musical) | แปลไทย

สวัสดีค่ะ มือดำเอง

อย่างที่เคยเกริ่นไปในเพลงก่อนว่าเดือนกุมภาพันธ์พวกเรา 3 ตัวจะแปลเพลงรักกันตลอดทั้งเดือนเพื่อต้อนรับเดือนแห่งความรัก เรามาเริ่มเพลงแรกกับเพลงที่มือดำเลือกมากันดีกว่า รับรองว่าเหมาะจะเอาไปเปิด/ร้องในงานแต่งงานสุด ๆ เลยล่ะ

เพลง At The Beginning นั้นเป็นเพลงประกอบอนิเมชั่นเรื่อง Anastasia (1997) ของค่าย 20th Century Fox ซึ่งเป็น 1 ในเรื่องโปรดของดิฉันเลยก็ว่าได้ เพลงนี้แต่งขึ้นโดยคุณ Lynn Ahrens และคุณ Steven Flaherty โดยที่ตัวเพลงเวอร์ชั่นแรกนั้นร้องโดย Richard Marx และ Donna Lewis ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกัน

เมื่อไม่กี่ปีก่อนเรื่องราวของอนาสตาเซีย เจ้าหญิงแห่งรัสเซียคนนี้ก็ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในรูปแบบละครเวที ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็มีเพลงประกอบชุดเดียวกับพี่ใช้ในอนิเมชั่นของปี 1997 ด้วยและมีเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นมาใช้กับละครเวทีโดยเฉพาะ

เพลง At The Beginning ที่ถือเป็น 1 ในเพลงดังของเรื่องก็ได้นักแสดงนำทั้ง 2 ท่านมาร้องซึ่งก็คือ Christy Altomare และ Zach Adkins นั่นเองค่ะ

มือดำรู้สึกว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้มันฟังดูสดใหม่ดีเลยหยิบมาใช้ทำซับเพื่อให้ทุกคนได้ลองฟังกันดู รับรองว่าไพเราะไม่แพ้ต้นฉบับเลย

เนื้อเพลงแปลไทยโดย มือดำ คนดีคนเดิมจ้ะ

We were strangers, starting out on a journey
Never dreaming, what we’d have to go through
Now here we are, and I’m suddenly standing
At the beginning with you

เราเป็นคนแปลกหน้าที่เริ่มออกเดินทางไป
ไม่เคยคิดฝันถึงสิ่งที่จะต้องพบพานมาก่อน
แล้วเราก็มาถึงจุดนี้ อยู่ดี ๆ ฉันก็ยืนอยู่
ที่จุดเริ่มต้นด้วยกันกับเธอ

No one told me, I was going to find you
Unexpected, what you did to my heart
When I lost hope, you were there to remind me
This is the start

ไม่เคยมีใครบอกเลยว่าฉันจะได้มาพบเธอ
คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเธอจะมีผลกับใจขนาดนี้
ในยามที่ฉันหมดหวัง เธออยู่ตรงนี้ทำให้ฉันรู้
ว่าเราเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง

And life is a road that I wanna keep going
Love is a river, I wanna keep flowing
Life is a road, now and forever, wonderful journey
I’ll be there when the world stops turning
I’ll be there when the storm is through
In the end I wanna be standing
At the beginning with you

และชีวิตก็เป็นเส้นทางที่ฉันอยากจะก้าวเดินต่อ
ความรักเป็นดังแม่น้ำ ที่ฉันอยากจะให้มันไหลเรื่อยไป
ชีวิตคือเส้นทางที่จากนี้และตลอดไปจะเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษ
ฉันจะอยู่ตรงนี้ในวันที่โลกหยุดหมุน
ฉันจะอยู่ที่นี่ในยามที่พายุโหมกระหน่ำ
ในท้ายที่สุด ฉันก็อยากจะยืนอยู่ตรงนี้
ที่จุดเริ่มต้นด้วยกันกับเธอ

We were strangers, on a crazy adventure
Never dreaming, how our dreams would come true
Now here we stand, unafraid of the future
At the beginning with you

เราเป็นคนแปลกหน้าที่ผ่านการผจญภัยแสนอันตราย
ไม่เคยนึกฝันถึงว่าความฝันเราจะเป็นจริงได้อย่างไร
แล้วเราก็มาถึงจุดนี้ ไม่เกรงกลัวต่ออนาคตข้างหน้า
ตรงนี้ที่จุดเริ่มต้นด้วยกันกับเธอ

And life is a road that I wanna keep going
Love is a river, I wanna keep flowing
Life is a road, now and forever, wonderful journey
I’ll be there when the world stops turning
I’ll be there when the storm is through
In the end I wanna be standing
At the beginning with you

และชีวิตก็เป็นเส้นทางที่ฉันอยากจะก้าวเดินต่อ
ความรักเป็นดังแม่น้ำที่ฉันอยากจะให้มันไหลเรื่อยไป
ชีวิตคือเส้นทางที่จากนี้และตลอดไปจะเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษ
ฉันจะอยู่ตรงนี้ในวันที่โลกหยุดหมุน
ฉันจะอยู่ที่นี่ในยามที่พายุโหมกระหน่ำ
ในท้ายที่สุด ฉันก็อยากจะยืนอยู่ตรงนี้
ที่จุดเริ่มต้นด้วยกันกับเธอ

I knew there was somebody, somewhere
Like me alone in the dark
Now I know my dream will live on
I’ve been waiting so long
Nothing’s gonna tear us apart

รู้มาตลอดว่าจะต้องมีใครสักคน ณ ที่ใดสักแห่ง
อยู่เพียงลำพังท่ามกลางความมืดเหมือนกันกับฉัน
ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าความฝันนี้มันจะยังคงอยู่ต่อไป
ฉันเฝ้ารอมานานแสนนาน
ไม่มีอะไรจะมาพรากเราจากกันได้

And life is a road that I wanna keep going
Love is a river, I wanna keep flowing
Life is a road, now and forever, wonderful journey
I’ll be there when the world stops turning
I’ll be there when the storm is through
In the end I wanna be standing
At the beginning with you

และชีวิตก็เป็นเส้นทางที่ฉันอยากจะก้าวเดินต่อ
ความรักเป็นดังแม่น้ำ ที่ฉันอยากจะให้มันไหลเรื่อยไป
ชีวิตคือเส้นทางที่จากนี้และตลอดไปจะเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษ
ฉันจะอยู่ตรงนี้ในวันที่โลกหยุดหมุน
ฉันจะอยู่ที่นี่ในยามที่พายุโหมกระหน่ำ
ในท้ายที่สุด ฉันก็อยากจะยืนอยู่ตรงนี้
ที่จุดเริ่มต้นด้วยกันกับเธอ

Life is a road that I wanna keep going
Love is a river, I wanna keep flowing on
Starting out on a journey

ชีวิตเป็นเส้นทางที่ฉันอยากจะก้าวเดินต่อ
ความรักเป็นดังแม่น้ำที่ฉันอยากจะให้มันไหลเรื่อยไป
เริ่มการเดินทางครั้งใหม่กัน

Life is a road that I wanna keep going
Love is a river, I wanna keep flowing
In the end I wanna be standing
At the beginning with you

ชีวิตเป็นเส้นทางที่ฉันอยากจะก้าวเดินต่อ
ความรักเป็นดังแม่น้ำ ที่ฉันอยากจะให้มันไหลเรื่อยไป
ในท้ายที่สุด ฉันก็อยากจะยืนอยู่ตรงนี้
ที่จุดเริ่มต้นด้วยกันกับเธอ

This image has an empty alt attribute; its file name is 989367tai3l1o35x.gif


เพลงต่อไปของเดือนแห่งความรักจะเป็นเพลงอะไรของชะนีตัวไหน รอติดตามกันนะจ๊ะ

ขอให้ทุกคนมีความรักที่ดีค่ะ,
มือดำ

Posted in Article, แปลไทย, Inter, Video sub Thai

What’s Your Country Song – Thomas Rhett | แปลไทย

สวัสดีค่า มือดำเอง

เพลง What’s your country song เป็นเพลงใหม่ของพี่ทอม Thomas Rhett ซึ่งคุณ Jm รีเควสมาค่ะ #มือดำ เลยหยิบมาแปลต่อเลย

เพลงนี้ต้องขอบอกก่อนว่าเนื้อเพลงอาจจะดูแปลก ๆ และไม่เข้าใจบ้าง เพราะเกือบทุกท่อนทุกวรรคในเพลงนี้เป็นการเอาชื่อเพลงคันทรี่ดัง ๆ มาใส่เอาไว้ เหมือนเป็นการถามคนฟังตามชื่อเพลงว่า “มีเพลงคันทรี่ไหนที่เรื่องราวในเพลงตรงกับชีวิตของเราบ้าง?” นั่นเองค่ะ

Official MV

เนื่องจากว่าเพลงคันทรี่พัฒนามาจากเพลงพื้นบ้าน เพลงศาสนา หลาย ๆ เพลงเนื้อเพลงก็จะมีความพื้นบ้าน พื้น ๆ มีความเป็นเรื่องเป็นราว (ให้คิดภาพเนื้อเพลงของเพลงลูกทุ่งบ้านเราค่ะ ไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ก็คล้าย ๆ กัน)

ด้วยความมีเรื่องราวที่หลากหลายในเนื้อเพลง พี่ทอมเลยแต่งเพลงนี้ด้วยความรู้สึกว่า ไม่ว่าคนเราจะเป็นใครมาจากไหน ต่างก็มีความคันทรี่อยู่ในตัว หรืออีกนัยก็คือเราต้องเคยประสบพบเจอเหตุการณ์ที่คล้ายหรือเหมือนในเนื้อเพลงหรืออย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีเพลงคันทรี่ที่ชอบสักเพลงแหละ

พี่ทอมกับคุณพ่อ Akins Rhett ช่วยกันแต่งเพลงนี้ขึ้นมาค่ะ

พอเนื้อเพลงเพลงนี้เป็นการเอาชื่อเพลงมาใส่ตอนแรกก็แอบกลุ้มว่ามันจะแปลได้จริงมั้ย แต่ก็ออกมาเป็นคลิปและบล็อกนี้ค่ะ ส่วนรายชื่อเพลงที่เป็นเรฟเฟอเรนท์ในเพลงนี้มือดำจะใส่ไว้ข้างล่างเนื้อเพลงนะคะ

What’s Your Country Song – Thomas Rhett
แปลไทยโดย มือดำเอง

*ตัวหนาคือชื่อเพลงคันทรี่ดังที่นำมาใส่ในเนื้อเพลง*

Did you grow up on a tractor?
Did your daddy let you drive?
Are you whiskey bent and hell bound
Even though your mama tried?

คุณโตมากับรถแทร็กเตอร์หรือเปล่า?
คุณพ่อยอมให้คุณขับมันบ้างไหม?
คุณเป็นพวกดื่มเพื่อลืมเธอแล้วคิดว่าตายไปคงต้องตกนรก
ถึงแม้ว่าแม่คุณจะพยายามห้ามแล้วก็ตามหรือไม่?

Did you cruise down a backroad
With your dixieland delight?
Are you on the Chattahoochee
On a barefoot blue jean night?

คุณเคยขับรถเล่นไปตามถนนในชนบท
เคียงข้างไปกับคนรักของตัวเองหรือเปล่า?
จะไปปาร์ตี้ค่ำคืนกางเกงยีนส์กับตีนเปล่า
ที่ริมแม่น้ำแชททาฮูชีไหม?

Everybody got a small town anthem
Everybody got a story to tell
Everybody got a hallelujah
Everybody been through a little hell

ทุกคนต่างก็มีเพลงชาติประจำเมืองเล็ก ๆ ของตัวเอง
ใคร ๆ ต่างก็มีเรื่องราวที่อยากจะเล่าขาน
ทุกคนต่างก็เคยพบเจอเรื่องราวดี ๆ
ใคร ๆ ต่างก็เคยผ่านเรื่องร้าย ๆ มาทั้งนั้น

When you’re rolling down a two-lane highway
And you turn your radio on
Tell me which one hits you, baby
Yeah, what’s your country song?
Yeah, what’s your country song?

ในตอนที่รถแล่นไปตามทางหลวงสองเลน
แล้วคุณเปิดวิทยุขึ้นมา
ที่รักบอกกันหน่อยว่าเพลงไหนที่โดนใจคุณ
เพลงคันทรี่ประจำตัวคุณคือเพลงไหน?
เพลงคันทรี่ของคุณคือเพลงไหน?

Do your exes live in Texas?
Are you so lonesome you could cry?
Are you heartbroke ’cause you know
That ain’t your truck in her drive?

แฟนคนก่อน ๆ ของคุณเป็นคนเท็กซัสหรือเปล่า?
คุณรู้สึกโดดเดี่ยวเสียจนอยากจะร้องไห้ไหม?
เป็นไหม? ที่ใจสลายเพราะคุณไปเห็นว่า
ไอ้กระบะคันที่จอดอยู่หน้าบ้านเธอมันไม่ใช่รถคุณ

Are your friends all in low places
Underneath the neon moon?
Were you already country
Back when country wasn’t cool
?

เพื่อนคุณล้วนแต่เป็นพวกคนชนชั้นล่าง
ที่อาศัยอยู่ใต้แสงนวลของหลอดนีออนหรือเปล่า?
คุณเป็นแฟนเพลงคันทรี่
ตั้งแต่ก่อนที่คนอื่น ๆ จะมาฮิตฟังกันอีกใช่ไหม?

Everybody got a small town anthem
Everybody got a story to tell
Everybody got a hallelujah
Everybody been through a little hell

ทุกคนต่างก็มีเพลงชาติประจำเมืองเล็ก ๆ ของตัวเอง
ใคร ๆ ต่างก็มีเรื่องราวที่อยากจะเล่าขาน
ทุกคนต่างก็เคยพบเจอเรื่องราวดี ๆ
ใคร ๆ ต่างก็เคยผ่านเรื่องร้ายกันมาทั้งนั้น

When you’re rolling down a two-lane highway
And you turn your radio on
Tell me which one hits you, baby
Yeah, what’s your country song?
Yeah, what’s your country song?

ในตอนที่รถแล่นไปตามทางหลวงสองเลน
แล้วคุณเปิดวิทยุขึ้นมา
ที่รักบอกกันหน่อยว่าเพลงไหนที่โดนใจคุณเข้าจัง ๆ
เพลงคันทรี่ของคุณคือเพลงไหน?
เพลงคันทรี่เพลงไหนที่ใช่คุณ?

Who’s your strawberry wine?
What’s your family tradition?
What makes you turn it up
Make you raise your cup every time you listen?

ใครกันนะที่คุณมอบกายและใจให้เป็นครั้งแรก
แล้วธรรมเนียมประจำครอบครัวคุณเป็นแบบไหน?
เพลงไหนที่ทำเอาคุณต้องเร่งเสียงให้ดังขึ้น
และต้องยกแก้วขึ้นชนทุกครั้งไป?

Everybody got a small town anthem
Everybody got a story to tell
Everybody got a hallelujah
Everybody been through a little hell

ทุกคนต่างก็มีเพลงชาติประจำเมืองเล็ก ๆ ของตัวเอง
ใคร ๆ ต่างก็มีเรื่องราวที่อยากจะเล่าขาน
ทุกคนต่างก็เคยพบเจอเรื่องราวดี ๆ
ใคร ๆ ต่างก็เคยผ่านเรื่องเลวร้ายกันมาทั้งนั้น

When you’re rolling down a two-lane highway
And you turn your radio on
Tell me which one hits you, baby
Yeah, what’s your country song?

ในตอนที่รถแล่นไปตามทางหลวงสองเลน
แล้วคุณเปิดวิทยุขึ้นมา
ที่รักบอกกันหน่อยว่าเพลงไหนที่โดนใจคุณเข้าจัง ๆ
เพลงคันทรี่ของคุณคือเพลงไหน?

Yeah, what’s your country song?

เพลงคันทรี่เพลงไหนที่ใช่คุณ?

This image has an empty alt attribute; its file name is 1163737bacv23d3tm-1.gif

รายชื่อเพลงคันทรี่ที่อยู่ในเพลง What’s your country song ที่พี่ทอมคอนเฟิร์มแล้วมีตามนี้ค่ะ

1. Drive (for Daddy Gene) ของ Alan Jackson

2. Whiskey Bent and Hell Bound ของ Hank Williams, Jr.

3. Mama Tried ของ Merle Haggard

4. Dixieland Delight ของ Alabama

5. Chattahoochee ของ Alan Jackson

6. Barefoot Blue Jean Night ของ Jake Owen

7. Turn Your Radio On ของ Ray Stevens

8. All My Ex’s Live in Texas ของ George Strait

9. I’m So Lonesome I Could Cry ของ Hank Williams

10. Heartbroke ของ Ricky Skaggs

11. That Ain’t My Truck ของ Rhett Akins
(ใช่ค่ะ นี่คือเพลงของคุณพ่อของพี่ทอมเอง เพลงสนุกมากด้วย ไว้ว่าง ๆ จะหยิบมาแปลนะคะ 55555)

12. Friends in Low Places ของ Garth Brooks

13. Neon Moon ของ Brooks & Dunn

14. I Was Country When Country Wasn’t Cool ของ Barbara Mandrell

15. Strawberry Wine ของ Deana Carter

16. Family Tradition ของ Hank Williams, Jr.

source: tasteofcountry

และนี่คือเพลงที่พี่ทอมไม่ได้ยืนยัน แต่มือดำบังเอิญเจอว่ามีเพลงคันทรี่ชื่อนี้อยู่ด้วย (ซึ่งไม่รู้ว่าบังเอิญหรือพี่ทอมตั้งใจใส่ไว้นะ)

– Cruise ของ Florida Georgia Line

– Turn it Up ของ Josh Thompson

– Raise Your Cups ของ Justin Tyler

This image has an empty alt attribute; its file name is 1163737bacv23d3tm-1.gif

ถ้ามือดำแปลผิดพลาดตรงไหนไปสามารถติชมแนะนำได้เช่นเคยนะคะ

แล้วเจอกันค่ะ,
มือดำ

Posted in Article, แปลไทย, J-pop

Anti-Hero – Sekai no Owari [แปลไทย]

ฮายยยยย

ช่วงนี้มีอะไรน่าสนใจในประเทศเราเยอะเลย อยู่ดีๆ #มือดำ ก็คิดถึงเพลง Anti-hero ของวง Sekai no Owari ขึ้นมา มันมีนัยยะทางการเมืองแอบแฝงอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

เพลง Anti-hero นี้เป็นซิงเกิลที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ live action เรื่อง Attack on Titan เมื่อปี 2016 ซึ่งเพลงนี้ทำออกมาเป็นเพลงภาษาอังกฤษ คิดว่าเนื้อเพลงสะท้อนถึงตัวตนของเอเลน เยเกอร์ ตัวเอกของเรื่องด้วย

 

attack-on-titan-header-image.jpg

 

ก่อนจะไปดูเนื้อเพลง มือดำขออธิบายคำว่า anti-hero ไว้ตรงนี้ เผื่อว่าใครไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้คอนเซ็ปต์ของคำนี้ เพราะเป็นคำที่ไม่สามารถแปลเป็นไทยแล้วเข้าใจความหมายได้ใน 1 คำ 555555555

Anti-hero เป็นลักษณะของ “ตัวเอก” ที่มีคุณสมบัติของ “พระเอก” หรือ “ฮีโร่” ไม่ครบถ้วนตามลักษณะโดยทั่วไปของความเป็นฮีโร่เช่น เป็นคนดี ยุติธรรม ทำเพื่อผู้อื่น (นึกภาพกัปตันอเมริกาเอาไว้)

ตัวละคร anti-hero นั้นจะเผยด้านมืดออกมามากกว่าด้านสว่าง เช่น ตัวเอกที่ไม่เลือกวิธีการ อาจจะมีการฆ่าคน หักหลัง ทรยศ หลอกลวง ทุจริต แค่หวังผลลัพธ์ที่ดีต่อทุกคน หรือเอื้อประโยชน์ให้ฝั่งดี

หรือตัวเอกที่ฆ่า-ปราบปรามคนเลวเพื่อล้างแค้น ไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวมหรือเพื่อความถูกต้อง

 

main-qimg-48c04925ec5eaef00f85cfd1c4ce3b9d
ตัวอย่างตัวละคร anti-hero จากฝั่งตะวันตก

 

ว่ากันง่ายๆ คือเป็นตัวละครเอกที่เราพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นคนดี แต่จะบอกว่าเป็นคนเลวรึก็ไม่ใช่นั่นเอง (ฮา)

เอเลนจากเรื่อง Attack on Titan เองก็ถือว่าเป็น anti-hero เช่นกัน หรือตัวละครเอกจากคอมมิคฝั่งตะวันตกก็มีเยอะเช่น Venom หรือ Deadpool

 

ถ้าพอจะเก็ตกันแล้วก็ไปฟังเพลงกันเลยดีกว่าจ้าาาาาา

 

 

424853j4irirtwxk

Anti-Hero
by Sekai no Owari

 

You know I don’t give a damn about what’s “right”
Or pleasing everyone around me
Cause I know this world that brought us life
Wasn’t made to keep everyone Happy

เธอก็รู้ฉันไม่สนหรอกว่าอะไร “ถูกต้อง”
หรือทำยังไงให้ทุกคนพอใจ
เพราะฉันรู้ว่าโลกใบนี้ที่มอบชีวิตให้พวกเรา
ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ทุกคนมีความสุข

The rules and laws that countries come up with
In front of me, they’re all shit!!!
Cause there are people that I’ve gotta protect
And if you get in my way, you’re dead!

ทั้งกฎเกณฑ์และกฎหมายที่ประเทศต่างๆ สร้างขึ้น
ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้ามีแต่ขยะทั้งนั้น
เพราะฉันมีผู้คนที่ต้องคอยปกป้อง
และถ้าหากใครมาขวาง ก็ตายซะ

You see I’m tired of trying to justify
Every decision that I make
If It’s to save the people that I stand by
You better believe what I say

รู้มั้ยว่าฉันโคตรเบื่อกับการพยายามพิสูจน์
ว่าทุกๆ การตัดสินใจของฉันมันถูกต้อง
ถ้าเพื่อจะปกป้องผู้คนที่อยู่เคียงข้างล่ะก็
เธอก็เชื่อในสิ่งที่ฉันบอกจะดีกว่า

Stay in the lines, don’t make a scene!
Heroes try to tell us what’s right
But when push comes to shove,you will know what i mean
I’m ready to start a fight

“จงอย่าแตกแถว อย่าทำตัวเด่น”
พวกฮีโร่พยายามบอกเราว่าอะไรถูกอะไรผิด
แต่เมื่อถึงเวลาคับขัน เธอจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร
ฉันพร้อมจะมีเรื่องเสมอ


I’m gonna be the Anti-hero
Feared and hated by everybody
I’m gonna be the Anti-hero
So i can save you when the time comes

ฉันจะเป็น Anti-hero
ที่ทุกคนกลัวและรังเกียจ
ฉันจะเป็น Anti-hero
เมื่อถึงเวลาฉันก็จะสามารถปกป้องเธอได้


I’m gonna be the Anti-hero
Feared and hated by everybody
I’m gonna be the Anti-hero
Yeah…

ฉันจะเป็น Anti-hero
ที่ทุกคนกลัวและรังเกียจ
ฉันจะเป็น Anti-hero

Righteousness is a thing that i hate
Cause it doesn’t do any good for anyone
And everyone thinks everything is OK
If they just obey

ฉันล่ะเกลียด ไอ้ “ความถูกต้อง”
เพราะมันไม่ได้ดีต่อใครทั้งนั้น
แล้วทุกคนต่างก็คิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี
ถ้าหากว่าแค่เชื่อฟัง

I don’t want to think about what they see
When they look up and see evil me
You see, love isn’t what I need
As long as I can set you free

ไม่อยากคิดเลยว่าทุกคนจะมองยังไง
เมื่อพวกเขาได้เห็นด้านชั่วร้ายของฉัน
รู้มั้ยว่า ความรัก ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ
ตราบใดที่ฉันสามารถปลดปล่อยเธอเป็นอิสระได้


Oh bum bum bum, watch out here I come
I said bum bum bum, you all better run
Oh bum bum bum, watch out here I come
So run!

Oh bum bum bum ระวังหน่อย ฉันมาแล้ว
ฉันพูด bum bum bum พวกเธอควรจะหนีไปซะ
Oh bum bum bum ระวังล่ะ ฉันมาแล้ว
เอ้า วิ่ง!

Stay in the lines, don’t make a scene
Heroes try to tell us what’s right
But when push comes to shove,you will know what I mean
I’m ready to start a fight

“จงอย่าแตกแถว อย่าทำตัวเด่น”
พวกฮีโร่พยายามบอกเราว่าอะไรถูกอะไรผิด
แต่เมื่อถึงเวลาคับขัน เธอจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร
ฉันพร้อมจะมีเรื่องเสมอ


I’m gonna be the Anti-hero
Feared and hated by everybody
I’m gonna be the Anti-hero
So I can save you when the time comes

ฉันจะเป็น Anti-hero
ที่ทุกคนกลัวและรังเกียจ
ฉันจะเป็น Anti-hero
เมื่อถึงเวลาฉันก็จะสามารถปกป้องเธอได้


I’m gonna be the Anti-hero
Feared and hated by everybody
I’m gonna be the Anti-hero
Yeah…

ฉันจะเป็น Anti-hero
ที่ทุกคนกลัวและรังเกียจ
ฉันจะเป็น Anti-hero


I’m gonna be the Anti-hero
Feared and hated by everybody
I’m gonna be the Anti-hero
So I can save you when the time comes

ฉันจะเป็น Anti-hero
ที่ทุกคนกลัวและรังเกียจ
ฉันจะเป็น Anti-hero
เมื่อถึงเวลาฉันก็จะสามารถปกป้องเธอได้

I’m gonna be the Anti-hero
Feared and hated by everybody
I’m gonna be the Anti-hero
Yeah…

ฉันจะเป็น Anti-hero
ที่ทุกคนกลัวและรังเกียจ
ฉันจะเป็น Anti-hero

 

424853j4irirtwxk

 

ขอให้ทุกคนมีความสุขค่ะ,

มือดำ

Posted in Article, แปลไทย, Inter, J-pop

Hanamizuki บทเพลงแห่งดอกไม้ กำลังใจจากญี่ปุ่นถึงอเมริกา ในเหตุการณ์ 9/11 [แปลไทย]

วันที่ 11 เดือนกันยายน ปี 2001 เกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งรุนแรงในอเมริกา เมื่อเครื่องบินสองลำถูกไฮแจ็ก นักบินโดนบังคับให้ขับเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ คร่าชีวิตผู้คนหลายชนชาติไปราว 3,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน นอกจากนี้ยังสร้างบาดแผลทางใจให้ครอบครัวเหยื่อและประชาชนทั่วโลก กระทั่งในปัจจุบันยังคงเหลือศพผู้เสียชีวิตที่ยังระบุตัวตนไม่ได้อยู่อีกจำนวนมาก

article-911

ในปี 2004 ฮิโตโตะ โย นักร้องสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-ไต้หวัน ได้แต่งเพลงชื่อว่า Hanamizuki ขึ้น เธอได้รับแรงบันดาลใจจากการได้เห็นน้ำตาของผู้คนและน้ำใจที่ญี่ปุ่นและอเมริกามีให้ต่อกันในโศกนาฏกรรม 9/11 ด้วยความเชื่อว่าความรักจะช่วยเยียวยาจิตใจทุกคนได้

Hanamizuki เป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นของต้น Dogwood สายพันธุ์หนึ่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทวีปอเมริกาเหนือ เป็นต้นไม้ที่มีกลีบดอกสีขาว-ชมพู บานสะพรั่งทั้งต้นในฤดูใบไม้ผลิ เป็นต้นไม้ที่อเมริกาได้มอบให้แก่ญี่ปุ่นเป็นของตอบแทนที่ญี่ปุ่นมอบซากุระให้ ต้นไม้ทั้งสองชนิดจึงเป็นเสมือนตัวแทนความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

dogwood-92088_640

ส่วนภาษาดอกไม้ของดอกด็อกวู้ดก็คือ “การยอมเสียสละเพื่อความรัก” ขอเพียงแค่ได้เห็นคนที่รักมีความสุข เราก็พร้อมจะเสียสละได้ทุกอย่าง เพลง Hanamizuki จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจของภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน “Hanamizuki เกิดมาเพื่อรักเธอ” ในปี 2010 และถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์อีกด้วย

นอกจากนี้ Hanamizuki ยังถูกนำมาร้องใหม่โดยศิลปินอื่นๆ อีกหลายครั้งเช่น ยูอิ อารางาคิ, May J. และ Super Junior K.R.Y และยังมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษชื่อว่า Dogwood Flower ร้องโดย Hayley Westenra อีกด้วย

ฮิโตโตะ โย
ฮิโตโตะ โย: ผู้แต่ง Hanamizuki

เนื่องในโอกาสครบรอบ 17 ปีเหตุการณ์สะเทือนใจต้นกำเนิดเพลงรักอมตะเพลงนี้ มือดำเลยนำเอา Hanamizuki ทั้งสองเวอร์ชั่นมาแปลให้ทุกคนได้รับชมรับฟังกันค่ะ แต่คราวนี้ไม่ได้ทำวิดีโอซับไทยนะจ๊ะ

735833rhg7sp07qv

Hanamizuki
by Hitoto Yo

空を押し上げて
Sora wo oshiagete
เธอเอื้อมมือขึ้นไป

手を伸ばす君 五月のこと
Te wo nobasu kimi, gogatsu no koto
ดันผืนฟ้าในเดือนพฤษภาคม

どうか来てほしい
Dou ka kite hoshii
อยากให้เธอมานะ

水際まで来てほしい
Mizugiwa made kite hoshii
ฉันอยากให้เธอมาที่ริมน้ำ

つぼみをあげよう
Tsubomi wo ageyou
แล้วจะมอบดอกไม้ให้

庭のハナミズキ
Niwa no hanamizuki
ดอกตูมของต้นฮานะมิซุกิจากสวน

薄紅色の可愛い君のね
Usubeni iro no kawaii kimi no ne
สีชมพูระเรื่อของเธอช่างน่ารัก

果てない夢がちゃんと終わりますように
Hatenai yume ga chanto owarimasu you ni
ขอให้ความฝันที่ยังไม่สำเร็จนั้นของเธอจบลงด้วยดี

君と好きな人が 百年続きますように
Kimi to suki na hito ga hyakunen tsudzukimasu you ni
อธิษฐานให้เธอและคนรักอยู่เคียงคู่กันไปเป็น 100 ปี

夏は暑過ぎて
Natsu wa atsusugite
ฤดูร้อนนี้อากาศร้อนเกินไป

僕から気持ちは重すぎて
Boku kara kimochi wa omosugite
และความรู้สึกของฉันก็หนักแน่นเหลือเกิน

一緒にわたるには
Issho ni wataru ni wa
หากเราทั้งคู่ข้ามไปด้วยกัน

きっと船が沈んじゃう
Kitto fune ga shizunjau
เรือจะต้องจมแน่ๆ

どうぞゆきなさい
Douzo yukinasai
เธอไปเถอะ

お先にゆきなさい
Osaki ni yukinasai
โปรดล่วงหน้าไปก่อนเลย

僕の我慢がいつか実を結び
Boku no gaman ga itsu ka jitsu wo musubi
สักวันฉันคงได้อะไรตอบแทนในความอดทน

果てない波がちゃんと止まりますように
Hatenai nami ga chanto tomarimasu you ni
ขอให้คลื่นที่ซัดสาดไม่รู้จบนี้สิ้นสุดลงเสียที

君と好きな人が 百年続きますように
Kimi to suki na hito ga hyakunen tsudzukimasu you ni
ฉันอธิษฐาน ขอให้เธอกับคนรักอยู่ครองคู่กันไปเป็น 100 ปี

ひらり蝶々を
Hirari chouchou wo
วิ่งไล่ผีเสื้อที่โบยบินพลิ้วไหว

追いかけて白い帆を揚げて
Oikakete shiroi ho wo agete
ฉันออกล่องเรือไป

母の日になれば
Haha no hi ni nareba
เมื่อวันแม่มาถึง*
ミズキの葉、贈って下さい
Mizuki no ha, okute kudasai
โปรดส่งใบฮานะมิซุกิมาให้ฉันด้วย

待たなくてもいいよ
Matanakute mo ii yo
เธอไม่ต้องเฝ้ารอหรอก

知らなくてもいいよ
Shiranakute mo ii yo
เธอไม่ต้องเข้าใจก็ได้

薄紅色の可愛い君のね
Usubeni iro no kawaii kimi no ne
สีชมพูระเรื่อของเธอนั้นช่างน่ารัก

果てない夢がちゃんと終わりますように
Hatenai yume ga chanto owarimasu you ni
ขอให้ความฝันที่ยังไม่จบนั้นสำเร็จไปด้วยดี

君と好きな人が 百年続きますように
Kimi to suki na hito ga hyakunen tsudzukimasu you ni
อธิษฐานขอให้เธอและคนรักอยู่เคียงคู่กันไปเป็น 100 ปี

僕の我慢がいつか実を結び
Boku no gamen ga itsu ka jitsu wo musubi
สักวันฉันคงได้อะไรตอบแทนในความอดทน

果てない波がちゃんと止まりますように
Hatenai nami ga chanto tomarimasu you ni
ขอให้คลื่นที่ซัดสาดไม่รู้จบนี้สิ้นสุดลงเสียที

君と好きな人が 百年続きますように
Kimi to suki na hito ga hyakunen tsudzukimasu you ni
อธิษฐานขอให้เธอและคนรักอยู่เคียงคู่กันไปเป็น 100 ปี

君と好きな人が 百年続きますように。
Kimi to suki na hito ga hyakunen tsudzukimasu you ni.
อธิษฐานขอให้เธอและคนรักอยู่เคียงคู่กันไปเป็น 100 ปี

*วันแม่ของญี่ปุ่น – ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงท้าย ๆ ของช่วงที่ดอกฮานะมิซุกิบานค่ะ

735833rhg7sp07qv

Hanamizuki: English version

Dogwood Flower
by Hayley Westenra

To the sky you reach out your hand
เธอเอื้อมมือออกไปยังท้องฟ้า

The songs of the clouds
บทเพลงแห่งปุยเมฆ

Call you to distant lands
เรียกเธอสู่ดินแดนห่างไกล

To the wind you call my name
เรียกชื่อฉันกับสายลม

Carried to the shore
ให้พัดพาไปยังชายฝั่ง

The shore where I wait
ริมหาดที่ฉันเฝ้ารอ

A dogwood flow’r, I’d give to you
ดอกด็อกวูดนี้ ฉันขอมอบให้เธอ

A blossom then, soon come to bloom
แล้วอีกไม่นาน มันจะบานสะพรั่ง

May the dreams you hold
ขอให้ความฝันที่เธอมี

The dreams that shine like rosen gold
ความฝันที่เปล่งประกายราวกับทองคำสีกุหลาบ

Last forever
ยั่งยืนชั่วนิรันดร์

I wish for you to shine above
ฉันขอให้ตัวเธอนั้นได้เฉิดฉาย

To radiate your endless love
มอบความรักอันไร้ที่สิ้นสุด

May it last a hundred years from now
ให้คงอยู่อย่างนั้นอีก 100 ปีจากนี้ไป

Summer heat weighing down on us
อากาศร้อนในฤดูร้นถาโถมเข้าใส่เรา

This boat is too weak and so in me, please trust
เรือลำนี้มันเปราะบางเกินไป…ขอจงเชื่อฉัน

I will follow you
แล้วฉันจะติดตามเธอไป

Please go ahead and I will be there soon
โปรดล่วงหน้าไปก่อน แล้วฉันไปถึงที่นั่นในอีกไม่ช้า

A dogwood flow’r, I’d give to you
ดอกด็อกวูดนี้ ฉันขอมอบให้เธอ

A blossom then, soon come to bloom
แล้วอีกไม่นาน มันจะบานสะพรั่ง

May the dreams you hold
ขอให้ความฝันที่เธอมี

The dreams that shine like rosen gold
ความฝันที่เปล่งประกายราวกับทองคำสีกุหลาบ

Last forever
ยั่งยืนชั่วนิรันดร์

I wish for you to shine above
ฉันขอให้ตัวเธอนั้นได้เฉิดฉาย

To radiate your endless love
มอบความรักอันไร้ที่สิ้นสุด

May it last a hundred years from now
ให้คงอยู่อย่างนั้นอีก 100 ปีจากนี้ไป

To the sky you reach out your hand
เธอเอื้อมมือออกไปยังท้องฟ้า

The songs of the clouds
บทเพลงแห่งปุยเมฆ

Call you to distant lands
เรียกหาเธอ ณ ดินแดนแสนไกล

To the wind you call my name
เรียกชื่อฉันกับสายลม

Carried to the shore
ให้พัดพาไปยังชายฝั่ง

The shore where I wait
ริมหาดที่ฉันเฝ้ารอ

A dogwood flow’r, I’d give to you
ดอกด็อกวูดนี้ ฉันขอมอบให้เธอ

A blossom then, soon come to bloom
แล้วอีกไม่นาน มันจะบานสะพรั่ง

May the dreams you hold
ขอให้ความฝันที่เธอมี

The dreams that shine like rosen gold
ความฝันที่เปล่งประกายราวกับทองคำสีกุหลาบ

Last forever
ยั่งยืนชั่วนิรันดร์

I wish for you to shine above
ฉันขอให้ตัวเธอนั้นได้เฉิดฉาย

To radiate your endless love
มอบความรักอันไร้ที่สิ้นสุด

May it last a hundred years from now
ให้คงอยู่อย่างนั้นอีก 100 ปีจากนี้ไป

May the dreams you hold
ขอให้ความฝันที่เธอมี

The dreams that shine like rosen gold
ความฝันที่เปล่งประกายราวกับทองคำสีกุหลาบ

Last forever
ยั่งยืนชั่วนิรันดร์

I wish for you to shine above
ฉันขอให้ตัวเธอนั้นได้เฉิดฉาย

To radiate your endless love
มอบความรักอันไร้ที่สิ้นสุด

May it last a hundred years from now
ให้คงอยู่อย่างนั้นอีก 100 ปีจากนี้ไป

735833rhg7sp07qv

เป็นเพลงที่ทั้งเพราะ ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้ามากจริงๆ จะนำมาร้องใหม่อีกกี่ครั้งก็ยังเป็นเพลงที่มีเนื้อหาตรึงใจ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นเพลงรักหวานๆ เศร้าๆ แต่พอลองมองให้ลึกซึ้งบทเพลงนี้ก็มีเนื้อหาที่แทนความรัก ความห่วงใยต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์รุนแรงอยู่ด้วย

ช่วงนี้ทางญี่ปุ่นเองก็เกิดภัยธรรมชาติหลายอย่างเลย หวังว่าทุกคนจะปลอดภัยและทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเช่นกันนะคะ

แถม:

Hanamizuki ร้องโดย Super Junior K.R.Y

Hanamizuki Guitar Cover โดย ยูกิ มิตสึอิ

ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดไปค่ะ,

มือดำ